วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

อาหารของนกกรงหัวจุก

อาหารของนกกรงหัวจุ

                 นกกรงหัวจุกชอบกินผลไม้และพืชผักเป็นหลัก นอกจากนี้ยังชอบกินหนอน ตั๊กแตน และแมลงอื่นๆ ซึ่งเป็นอาหารโปรตีน เพื่อทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ถ้าจะให้อาหารเม็ด ต้องเป็นอาหารลูกไก่ก็ยิ่งเจริญเติบโตดี ซึ่งอาหารต่างๆ มีดังนี้

อาหารที่เป็นผลไม้
       ผลไม้ที่นกกรงหัวจุกกินจะเป็นสมุนไพรไปในตัว สามารถรักษาหรือป้องกันโรคต่างๆ ได้ดี มีดังนี้
"กล้วยน้ำว้าสุก" เป็นยาแก้ท้องผูก ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายดี
ข้อควรระวังให้กินนานๆ เสียงนกจะร้องเพี้ยน
เพราะเนื้อกล้วยจะเหนียวติดปากนก นกก็จะอ้าปากร้องได้ไม่เต็มที่

"ส้มเขียวหวาน" มีวิตามินซี เป็นยาแก้ไขแก้ปวด แก้เจ็บคอและไอขับเสมหะและแก้อาเจียน


"มะละกอสุก" เพราะเป็นยาระบายท้อง แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงสายตาและขับพยาธิเส้นด้าย


"ฝรั่งสุก" เป็นยาแก้ท้องร่วง เป็นบิด และบำรุงหัวใจ

"พุทราสุก" เป็นยาแก้อ่อนเพลีย ผอมแห้งแรงน้อย
"มะม่วงสุก" เป็นยาแก้ท้องอืด อาหารไม่ย่อยและบำรุงกระเพาะอาหารให้แข็งแรง
นอกจากนี้ ยังมีผลไม้ป่าอีกหลายชนิดที่นกกรงหัวจุกกิน ได้แก่ ลูกหว้า ลูกไทร

อาหารที่เป็นพืชผัก

พืชผักที่นกกรงหัวจุกกิน จะ เป็นพืชสมุนไพรไปในตัว สามารถรักษาหรือป้อนกันโรคต่างๆ ได้ดี มีดังนี้

"ลูกตำลึง" เป็นยาแก้ระบายท้อง

"มะเขือเทศ" เป็นยาแก้นกเบื่ออาหาร แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงเลือด และกระตุ้นกล้ามเนื้อ

"แตงกวา" เป็นยาแก้ร้อนใน บำรุงปอด ช่วยย่อยอาหาร ช่วยให้ความจำดี
 เมล็ดขับพยาธิ ข้อควรระวัง ก่อนให้นกกิน ต้องนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน เพราะจะมีสารเคมีตกค้างมากับแตงกวา
ถ้าให้นกกินเลยโดยไม่ล้างหรือแช่น้ำนกอาจจะตายได้ 

"พริกขี้หนูแดง" เป็นยาเจริญอาหาร บำรุงกำลัง และเป็นยาแก้ท้องเสีย
 แก้ปอดบวม และทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี โ
ดยนำมาล้างน้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ นำไปผสมกับน้ำผึ้ง

"บวบ" เป็นยาระบายท้อง แก้ไขและแก้ร้อนใส

อาหารที่เป็นหนอนและแมลง
               ได้แก่ หนอนนก ไข่มดแดง ปลวก จิ้งหรีด ตั๊กแตน แมลงเม่า อาหารพวกนี้จะเป็นอาหารโปรตีน ทำให้จกเจริญเติบโตได้เร็ว

อาหารเม็ด
              เป็นอาหารสำหรับให้ลูกไก่กิน ควรเป็นอาหารเสริมให้นกกรงหัวจุกกินเป็นบางครั้งบางคราว นกกรงหัวจุกเป็นนกที่กินอาหารได้ตลอดวัน และอุจจาระไปเรื่อยๆ ดังนั้น การให้อาหารก็ต้องคอยดูว่าอาหารที่ให้หมดหรือยัง ถ้าหมดแล้วก็ให้ใหม่ ผู้เลี้ยงควรเปลี่ยนอาหารสลับกันไป เป็นผลไม้บ้าง พืชผักบ้าง หนอนนกบ้าง และอาหารเม็ดบ้าง


การให้อาหาร
             ควรให้เป็นเวลา อย่าให้พร่ำเพรื่อหรือหลายอย่างพร้อมกัน เพราะถ้านกกินอิ่มมากเกินไปจะทำให้ท้องเสีย ซึ่งจะเกิดโทษได้ ควรให้นกกินอาหารหลายชนิดจนเกิดความเคยชิน เพราะถ้าไม่มีกล้วย เราจะเอาถั่วลิสงหรือแม้แต่ไข่ต้มคลุกข้าว นกก็จะสามารถกินได้ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวควรให้กินพอประมาณ เพราะถ้าให้กินพร่ำเพรื่อจะทำให้นกท้องเสียได้
การให้น้ำ
               น้ำสำหรับนกกรงหัวจุก ควรเป็นน้ำที่สะอาด เมื่อดูแล้วน้ำในถ้วยที่ให้นกกรงหัวจุกใกล้หมด ก็ต้องเติมน้ำให้ใหม่ เพราะนกกรงหัวจุกชอบร้องทั้งวัน ก็เหมือนคนที่พูดมากๆ ต้องหิวน้ำเป็นธรรมดา อย่าให้นกกรงหัวจุกขาดน้ำ ถ้านกขาดน้ำนกกรงหัวจุกจะมีลักษณะขนตั้งชัน และนกกรงหัวจุกก็จะตายได้ ปกตินกกรงหัวจุกจะขาดน้ำได้ประมาณ 2-3 วัน ดังนั้น ผู้เลี้ยงที่จะไปไหนหลายๆ วัน ต้องฝากให้คนอื่นช่วยดูแลให้

การผสมพันธุ์นกกรงหัวจุก

การผสมพันธุ์นกกรงหัวจุก

                 การผสมพันธุ์นกกรงหัวจุก จาก หนังสือ นกกรงฯนกเพลงเสนาะโลก เขียนโดย น้าหมูเซียนนก ตามหลักการเลี้ยงสัตว์ที่ถูกต้องนั้น... ต้องมีการขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มจำนวน นกกรงหัวจุกนั้นแม้จะเป็นสัตว์คุ้มครอง แต่ก็เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่สามารถเพาะพันธุ์ได้นั่น หมายถึงว่ากฎหมายได้เปิดช่องทางออกไว้เพื่อให้เราผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกมีข้อโต้แย้งได้ว่าเราลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์ มิได้เลี้ยงเพื่อการค้า การผสมพันธุ์นกกรงหัวจุกไม่ใช่เรื่องยาก ว่ากันไปแล้วง่ายกว่านกเขาชวาเสียอีก

ขั้นแรกก็ต้องเตรียมกรงผสมเสียก่อน

ขนาดของกรงผสมก็ไม่ใหญ่โตอะไรมาก กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตรถึง2เมตรครึ่ง แล้วแต่พื้นที่ ความสูงก็ 2 เมตร แค่นี้ก็กว้างพอสำหรับพ่อแม่นกที่จะบินไปมาได้สะดวก ในกรงเราต้องตกแต่งให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติเสียหน่อย ด้วยการเอาต้นไม้กิ่งไม้ตกแต่งให้สวยงาม ให้นกได้มีความรู้สึกว่าอยู่ในธรรมชาติจริง ใช้ต้นโมกนี่แหล่ะราคาไม่แพงยกเข้าไปทั้งกระถางเลย 3 – 4 ต้นก็น่าจะพอ ที่พื้นกรงก็เอาทราบหยาบมาโรยไว้เพื่อซับความชื้น...จากนั้นก็หากิ่งไม้ไปขัดเป็นเส้น ๆ หลาย ๆ อัน เพื่อที่นกจะได้เลือกมุมหนึ่งเพื่อการสร้างรัง นกกรงหัวจุกนั้นด้วยนิสัยของมันแล้ว มันไม่ชอบให้ใครทำรังให้ มันจะช่วยกันสร้างเอง ดังนั้นเราควรหาเศษหญ้าแห้งไปทิ้งไว้ที่พื้นกรงเพื่อที่มันจะคาบขึ้นไปสร้างรังเอง

สิ่งที่ไม่ควรลืมใส่ไว้ในกรงก็คือ
   อุปกรณ์อำนวยความสะดวกของนก ถาดอาหาร และผลไม้ ถาดใส่หนอนมีที่รองน้ำเพื่อกันมด อ่างอาบน้ำนก
                  เมื่อจัดเตรียมกรงเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงเรื่องพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ต้องเลือกเอานกที่มีแกนเสียงหนา ๆ สำนวนเพลงดี ๆ เพราะโอกาสที่จะได้ลูกนกที่มีแกนเสียงสามารถร้องเพลงดีมากกว่า อายุของพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ก็สำคัญ อย่าเอานกอายุอ่อนเกินไปอย่างน้อยต้อง 2 ปีขึ้นไป ก่อนการผสมพันธุ์เราต้องเตรียมตัวนกตัวเมียที่อายุดี แข็งแรง สัก 3 – 4 นก นำเอาไปปล่อยในกรงผสม พร้อมกับนกตัวผู้ 1 นก ที่ทำอย่างนี้เพราะต้องการให้นกเลือกคู่เอง พ่อนกถูกใจตัวเมียก็จะเห็นเคล้าคลอกับตัวนั้น... เราค่อยจับตัวเมียที่เหลืออก...
              หลังจากนั้นไม่นานนกทั้งสองจะช่วยกันคาบใบไม่ใบหญ้ามาช่วยกันทำรัง ไม่นานเราก็จะเห็นไข่ 2 – 3 ฟองในรังเล็ก ๆ นกกรงหัวจุกใช้เวลาประมาณ 15 วันในการกกไข่บวกลบไม่เกิน 1 วัน ลูกนกตัวน้อย ๆที่ยังไม่ลืมตาก็จะออกมาจากไข่ ช่วงที่นกมันกกไข่จนถึงออกเป็นตัวต้องระวังอย่าให้อะไรไปรบกวน เพราะอาจเป็นสาเหตุให้นกที่ไข่ทิ้งลูกได้ บางครั้งลูกนกอาจจะถูกดันจนตกรังได้

         
              การเลี้ยงลูกป้อนพ่อแม่นกกรงหัวจุกจะช่วยกันป้อนลูกช่วงนี้เราต้องเอาหนอนนกใส่ไว้มากเป็นพิเศษเอาอาหารเสริมพวกอาหารเม็ดใส่ไว้ด้วย พ่อแม่จะได้สอนให้ลูกกิน ลูกนกจะได้คุ้นเคยกับอาหารเม็ดในอนาคต ในช่วงนี้เราเรียกว่า นกลูกป้อนประมาณ 3 สัปดาห์ ลุกนกจะเริ่มบินได้ โดยมีพ่อแม่เป็นครูฝึก ลุกนกจะเริ่มจิกอาหารเองได้แล้ว เราสามารถที่จะแยกออกมาเลี้ยงในกรงเดี่ยวได้แล้ว เพื่อที่ลูกนกจะได้คุ้นกับผู้เลี้ยงทั้งยังเป็นการช่วยให้แม่นกได้พักผ่อน และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เพื่อที่จะได้วางไข่ในคอกต่อไปอีกครั้ง

นกมงคล 12 ประการ

นกมงคล 12 ประการ







                     นกบางตัว อาจไม่เคยชนะการประกวดแข่งขันมีรางวัลตอบแทน แต่สำนวนร้องได้หลายพยางค์ เสียงร้องอาจเบาแต่ความเบานั้น เบาจากเพลงร้องยาว ๆ ร้องดีร้องเสมอต้นเสมอปลาย นกอย่างนี้หายากหาเลี้ยงไว้เถอะดีนักแล ฯ
1.ส่วนของหัวใหญ่ รูปโครงสร้างของใบหน้าดูเหมือนสิงโต
2.หงอน จุกบนหัวใหญ่ โคนจุกขนดกหนายาวตั้งตรงปลายแหลมขนเรียบลู่ในแนวเดียวกันดำสนิท ปลายโน้มเอียงไปข้างหน้าเล็กน้อย
3.นัยน์ตาดุหรือหวาน คม ใส ไวต่อสิ่งสัมผัส ทั้งภายนอกภายใน
4.สันปากใหญ่หนา คมปากประกบกันสนิทคล้ายปากนกเหยี่ยว หรือนกอินทรีย์ (จะงอยปากไม่งุ้มลงมากเหมือนนกเหยี่ยว)
5.สีแต้มแดงที่หู หรือ หูแดงเข้มถึงเข้มมาก
6.สีแก้มขาวชัด ขนขึ้นดกหนาใหญ่ ขาวสะอาด หนวดดำเส้นเล็กตัดหว่างสีแก้มกับเคราใต้คาง
7.คอใหญ่ เครา ขนเคราขึ้นดกหนาฟูใหญ่สร้อยคอดำสนิทหรือภาษานกเรียก หมึกดำ ๆ สนิทขึ้นดกหนาใหญ่ย้อยลงมาถึงข้างล่างจรดก้น
8.โครงสร้างสัดส่วนยาวใหญ่สันทัด หน้าอกนูนใหญ่ ลักษณะจับดูหนึ่ง หรือมองดูตาเปล่า สง่า องอาจ
9.สีบัวใต้หางชัด สีแดงออกส้ม ๆ หรือสีแสด บานถึงปลายหาง
10.หางพัดยาว ปลายหางไม่แตก หางขาวดำ หรือหางดำป้ายขาว 8 หาง ข้างละ 4 หาง หางดำตลอด 4 หาง รวมเป็น 12 หาง หางยาวไม่แตก เวลายืนด้วยอาการปกติปลายหางซ้อนกันในแนวเดียว
11.ลีลาท่ายืนเดินสง่า สองขาจับมั่นดูองอาจสง่า เป็นนกใจเด็ดสู้ไม่ถอย
12.เสียงนกดี น้ำเสียงดี เสียงดังฟังชัด จะเป็นนกเสียงเล็ก กลาง ใหญ่ ได้ทั้งนั้น (เสียงไม่แหบพร่า) เหมาะเป็นนกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ดี
           นกใดมีลักษณะมงคล 12 ประการ ดังกล่าวมานี้ คือเป็นนกดีลักษณะนกผู้นำชั้นยอด นักนิยมนกทั้งหลาย ควรเสาะหามาเลี้ยงเป็นเพื่อนคู่ใจดีนักเอย

การดูเพศนกกรงหัวจุกตัวผู้ และตัวเมีย

การดูเพศนกกรงหัวจุกตัวผู้ และตัวเมีย


  • จุกที่หัว - ขนจุกบนหัวใหญ่จุกที่อยู่บนหัวมีโคนจุกใหญ่แล้วเริ่มเล็กเรียวขึ้นไปปลายจุกแหลมและปลายจุกจะชี้ไปทางหัวของนก
  • หัว - มีหัวและใบหน้าใหญ่
  • ปาก - มีสีดำเป็นมันและปลายปากงอเล็กน้อย
  • ตา - ดวงตากลมและใส สีดำ
  • ขนแดงใต้ตา - เป็นสีแดงฟูเป็นกระจุกใต้ตา
  • ขนแก้ม - เป็นกระจุกสีขาวฟูใหญ่กว่าขนแดงใต้ตา
  • คอ - ขนาดของคอตัวผู้ใหญ่กว่าตัวเมียทำให้ร้องเสียงดี และร้องได้นานกว่าตัวเมีย จึงสามารถร้องเป็นเพลงได้หลายคำ
  • ขนคอด้านบน - จะเป็นขนสีดำเรียบ
  • ขนคอด้านล่าง - เป็นขนสีขาวสะอาดและขนฟูเป็นปุยเหมือนสำลีนูนออกมา
  • สร้อยคอ - จะมีสีดำเป็นแถบจากคอพาดลงมาที่หน้าอก ที่ปลายสร้อยคอมองดูแล้วจะมีลักษณะออกแหลมแต่ไม่ค่อยเด่นชัดนัก
  • อก - มีอกใหญ่ขนหน้าอกมีมากกว่าตัวเมียโดยใช้ปากเป่าอกดูขนหน้าอก
  • ขนที่หัวปีก - มีขนที่หัวปีกสีน้ำตาลดำ มีขนหางจำนวน 12 เส้น
  • หาง - ขนหางมีสีน้ำตาลดำ มีขนหางจำนวน 12 เส้น
  • เสียงร้อง - เสียงร้องจะใหญ่และดังกังวานร้องได้ 3-7 พยางค์

การดูเพศเมีย

 ***จุกที่หัว - ขนบนจุกจะเล็กกว่าตัวผู้จุกที่อยู่บนหัวมีโคนจุกเล็กกว่าตัวแล้ว เริ่มเรียวขึ้นไปปลายจุกแหลมแต่ปลายจุกจะชี้มาทางด้านหลัง
***หัว - มีหัวและใบหน้าเล็กกว่าตัวผู้
***ปาก - มีปากสีดำเป็นมันและปลายปากงอเล็กน้อย
***ตา - ดวงตากลมและใสสีดำ
***ขนแดงใต้ตา - เป็นขนสีแดงฟูเป็นกระจุกใต้ตา
***ขนแก้ม - เป็นกระจุกฟูใหญ่กว่าขนแดงใต้ตา
*** คอ - ขนาดของคอเล็กกว่าตัวผู้ทำให้ร้องเสียงไม่ดี ร้องได้ไม่นาน จึงทำให้ร้องไม่เป็นเพลง
***ขนคอด้านบน - จะเป็นขนสีดำเรียบ
***ขนคอด้านล่าง - เป็นขนสีขาวสะอาดและขนฟูเป็นปุยเหมือนสำลีนูนออกมา
***สร้อยคอ - จะมีสีดำเป็นแถบจากคอพาดลงมาที่หน้าอก ที่ปลายสร้อยคอมองดูแล้วจะมีลักษณะไม่แหลม
***อก - มีอกเล็กกว่าตัวผู้ และขนหน้าอกจะมีน้อยกว่าตัวผู้ โดยใช้ปากเป่าดูขนหน้าอก หนังที่อกของตัวเมียจะเนียนละเอียดเกลี้ยงกว่าตัวผู้
***ขนที่หัวปีก - ขนที่หัวปีกไม่มีสีแดงทั้ง 2 ข้าง
***หาง - ขนหางมีสีน้ำตาลดำ มีขนหางจำนวน 9-10 เส้น
***เสียงร้อง - ขนหางมีสีน้ำตาลดำ มีขนหางจำนวน 9-10 เส้น

ตำนานนกกรงหัวจุก



ตำนานนกกรงหัวจุก

              นกกรงหัวจุกที่เราๆ ท่านๆ นำมาแข่งขันประชันเสียงกันนั้น มีตำนานเล่าสืบต่อกันมา และมีหนังสือบางเล่มได้เขียนเอาไว้ว่าชนชาติแรกที่นำนกปรอดหัวจุกมาเลี้ยงคือ ชาวจีน เมื่อประมาณ พ.ศ.2410 คนจีนได้นำนกปรอดหัวจุกมาเลี้ยงแทนนกโรบิ้น ที่คนจีนส่วนใหญ่นิยมนำมาใส่กรงพาเดินตามถนนหรือนั่งร้านกาแฟ หรือไปหาเพื่อนๆ ที่รู้ใจและเลี้ยงนกเหมือนกัน และเจ้านกโรบิน มักจะเป็นนกที่ตกใจง่ายและตื่นคน บางครั้งทำใจมากจนถึงขั้นช็อคตายคากรง ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ชาวจีนหันมาเลี้ยงนกปรอดหัวจุกหรือนกหัวจุกกันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

              นกกรงหัวจุกเป็นที่นิยมของคนภาคใต้มายาวนาน โดยได้รับอิทธิพลมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย โดยจะมีการนำนกกรงหัวจุกมาแข่งขันประชันเสียงเพลงซึ่งดูที่ลีลาการร้องของสำนวนเสียงในนกแต่ละตัวว่าใครจะเหนือกว่ากัน แต่ในสมัยก่อนของภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส กระบี่ นครศรีธรรมราช นิยมนำนกกรงหัวจุกมาชนกันหรือตีกันเหมือนกับการชนไก่ คือเอานกมาเทียบขนาดให้ใกล้เคียงกันแล้วจับใส่กรงกลางที่มีขนาดใหญ่แล้วปล่อยให้นกทั้งสองตัวไล่จิกตีกันภายในกรงจนกว่าจะรู้แพ้รู้ชนะ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่านกปรอดหัวจุก มีนิสัยดุร้ายและชอบไล่จิกและตีกันตามธรรมชาติอยู่แล้ว

แนะนำตัวเอง....


ชื่อ  นายพงษ์พัฒน์       ศรีสะอาด
ชื่อเล่น  บอย
อายุ    21   ปี
เกิดวันที่     2     มีนาคม    2532
กำลังศึกษาอยู่ที่     มหาวิทยาลัยมหสารคาม
คณะการบัญชีและการจัดการ
สาขา  การจัดการ  ชั้นปี  3
รหัสนิสิต 51010901707
ภูมิลำเนาเดิม   จังหวัดหนองบัวลำภู
งานอดิเรก  เลี้ยงไก่ชน  นกกรงหัวจุก และปลาหมอสี
เวลาว่าง   เล่นเซปักตะกร้อ
.........................................